วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ประวัติความเป็นมา

แอนิเมชันเป็นศาสตร์แห่งศิลปะที่มนุษย์คิดสร้างสรรค์ขึ้นซึ่งปรากฏเป็นหลักฐานมา
นับพันปีแล้วและยังคงมีพัฒนาการสร้างศิลปะแอนิเมชันมาอย่างต่อเนื่องจน
ปัจจุบัน
แอนิเมชัน(Animation)หมายถึงการสร้างภาพเคลื่อนไหวโดยการฉายภาพนิ่ง
หลายๆภาพด้วยความเร็วสูงคำว่าAnimationสะกดเป็นภาษาไทยคือแอนิเมชัน(ตาม
หลักการใช้คำทับศัพท์ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานที่ไม่ใช้วรรณยุกต์ใน
การสะกด)แอนิเมชันเป็นกระบวนการสร้างภาพนิ่งให้เกิดเป็นภาพเคลื่อนไหวได้อย่างมี
ชีวิตชีวาซึ่งสามารถทำได้หลายเทคนิคไม่จำกัดว่าต้องทำด้วยคอมพิวเตอร์เสมอไปซึ่ง
ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาชีพแอนิเมชันส่วนใหญ่ได้จำแนกเทคนิคการทำงานของแอนิเมชัน
แบ่งออกเป็น2ประเภทใหญ่ๆ คือ
1.แอนิเมชันแบบดั้งเดิม(TraditionalAnimation)เป็นกระบวนการสร้างสรรค์
แอนิเมชันในยุคเริ่มแรกโดยที่ไม่มีการใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องเช่นการวาดเส้น
(Drawing)การระบายสีจริงบนกระดาษ(Painting)แอนิเมชันแบบเซลลูลอยด์หรือแผ่น
ใส(CelsAnimation)การปั้นดินน้ำมัน(ClayAnimation)การตัดกระดาษ(PaperCutJoint
Cut) ฯลฯ
ผลงานแอนิเมชันเทคนิคการปั้นดินน้ำมันของWallace&Gromitจากภาพยนตร์แอนิเมชัน เรื่อง TheCurseoftheWere-Rabbit ใช้วิธีการนำดินน้ำมันมาปั้นให้เป็นตัวละครโดยมีโครงลวดอยู่ด้านในเป็นการสร้างภาพเคลื่อนไหวโดยการขยับหุ่นหรือเปลี่ยนย้ายตำแหน่งของตัวละครและใช้กล้องถ่ายแบบทีละภาพจัดเป็นส่วนหนึ่งของงานแบบ StopMotion
ผลงานแอนิเมชันเทคนิคการใช้ทราย(SandAnimation)เป็นอีกเทคนิคของภาพยนตร์
แบบStopMotionที่ได้รับความนิยมแพร่หลายในยุโรปโดยใช้ทรายเป็นสื่อในการถ่ายทอดโดยกวาดทรายให้เป็นรูปร่างตามจินตนาการและค่อยๆ กวาดเม็ดทรายให้มีรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆและใช้กล้องถ่ายทีละภาพ
          แอนิเมชันเทคนิคStopMotionโดยใช้คนแสดงเป็นวิธีการถ่ายภาพให้ตัวนักแสดงจัดท่าโพสต์ก่อนจึงใช้กล้องบันทึกภาพไปทีละภาพ ซึ่งนักแสดงจะค่อยๆ ขยับร่างกายทีละส่วนเมื่อนำภาพนิ่งที่ถ่ายเป็นภาพต่อเนื่องนำมาจัดลำดับเรียงกันและไปตัดต่อสามารถสร้างเป็นงานแอนิเมชันได้
        2. ดิจิทัลแอนิเมชัน,คอมพิวเตอร์แอนิเมชัน(DigitalAnimation,Computer Animation)เป็นกระบวนการผลิตงานภาพเคลื่อนไหวด้วยระบบดิจิทัลโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักในการทำงานตั้งแต่การวาด,การระบายสี,การปั้นโมเดล,การแอนิเมทสร้างภาพเคลื่อนไหวตลอดจนการตัดต่อออกมาเป็นไฟล์ภาพยนตร์ที่สมบูรณ์โดยมีทั้งแอนิเมชันแบบ2-3มิต
          ปัจจุบันงานแอนิเมชันที่มีการผลิตร่วมกับงานวิชวลเอฟเฟคจำนวนมาก จนแทบจะแยกไม่ออก งานวิชวลเอฟเฟคคืองานสร้างภาพยนตร์ด้วยเทคนิคพิเศษให้มีความสมจริงมากที่สุดที่พบเห็นได้ชัดเจนเช่นการใช้ภาพ3Dตัดต่อผสมผสานกับภาพถ่ายจริงหรือเป็นภาพจำลองที่สร้างขึ้นจนเสมือนจริงทั้งหมด


          งานแอนิเมชันที่ใช้การแคปเจอร์ภาพจากนักแสดงโดยผ่านจุดเซ็นเซอร์ที่ติดตามร่างกายของนักแสดง เรียกว่า โมชันแคปเจอร์(MotionCapture) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่สำหรับงานแอนิเมชันที่ต้องการความรวดเร็วและมีความสมจริงเช่นการสร้างแอนิเมชันในเกมคอมพิวเตอร

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.